ปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นอีกปีที่ท้าทายภาคธุรกิจอย่างยิ่ง แม้ปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจะกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยมีสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก จากภาคการลงทุน ภาคการผลิต และภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในหลายด้านยังคงทำให้ภาคธุรกิจต้องตระหนักและศึกษาอย่างใกล้ชิด เช่น ความท้าทายของเศรษฐกิจโลก ด้านการเงิน ด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือน การปรับตัวสูงขึ้นของราคาพลังงาน การเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของลูกค้าซึ่งสะท้อนมาจากความผันผวนและความไม่เพียงพอของรายได้ครัวเรือน การเพิ่มขึ้นของอัตราค่าครองชีพ ซึ่งเหตุดังกล่าวยังคงเป็นความเสี่ยงและปัจจัยกดดันต่อความสามารถในการชำระหนี้และกำลังซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ตามที่ปริมาณหนี้ครัวเรือนยังคงเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดในปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) อยู่ในระดับสูง ประกอบกับสถานการณ์ความท้าทายข้างต้น บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัทฯ”) เล็งเห็นว่า เป็นจังหวะที่ดีในการขยายโอกาสทางธุรกิจในการประมูลซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหารจัดการ ด้วยปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพในตลาดที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าจะส่งผลต่ออัตราการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น
แม้ว่าผู้ว่าจ้างสถาบันการเงินจะมีแนวโน้มปรับลดปริมาณการมอบหมายงานว่าจ้างติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกตามภาวะเศรษฐกิจ กลุ่มบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเตรียมการจัดสรรบุคลากรในส่วนงานให้บริการไปเสริมความแข็งแกร่งของส่วนงานบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ตามปริมาณงานที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นตามแผนการขยายโอกาสทางธุรกิจที่ได้กล่าวข้างต้น
ตามที่โลกปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน กลุ่มบริษัทฯ จึงเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ (Mobile Application) เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารและการประเมินความพึงพอใจ และอำนวยความสะดวกในการให้บริการให้แก่ลูกค้า ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ สามารถนำผลการประเมินมาพิจารณาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการต่อไป พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาลและหลักจริยธรรม ด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ปฏิบัติตามกฎหมาย และลดการสร้างผลกระทบด้านลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเป็นสำคัญ อีกทั้ง กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโต และดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายตามแผนงานและกลยุทธ์ที่กำหนด โดยยึดหลักการและแนวคิดของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ การประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และกลุ่มบริษัทฯ ยังได้มุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสริมสร้างความมั่นใจของผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นว่า กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
ในโอกาสนี้ กลุ่มบริษัทฯ ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น ผู้ว่าจ้าง พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า สื่อมวลชน ฝ่ายบริหาร และพนักงานทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ และขอให้คำมั่นว่า กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ และพัฒนาความสามารถขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยตระหนักและยึดมั่นในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลตามกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Environmental, Social, and Governance : ESG) โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างเท่าเทียม
คุณประดิษฐ์ เลี่ยวศิริกุล
ประธานกรรมการ
คุณประชา ชัยสุวรรณ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
